ทำความรู้จัก Americano VS Long Black ความต่างที่คุณอาจไม่เคยรู้ !

แน่นอนว่าอาจเป็นข้อสงสัยของใครหลายคน ที่ชื่นชอบรสชาติของกาแฟดำแบบเข้มข้น ว่า Americano และ Long Black แตกต่างกันอย่างไร หากมองโดยผิวเผินแล้ว เครื่องดื่มกาแฟดำทั้ง 2 เมนูนี้อาจดูไม่แตกต่างทั้งส่วนประกอบที่ได้จากเอสเพรสโซ่และน้ำ แต่หากคุณได้ลงมือทำเครื่องดื่มเเล้วนั้น ก็จะได้รู้ว่าเครื่องดื่ม 2 เมนูนี้ มีวิธีการสกัดรวมถึงการใช้ปริมาณน้ำที่แตกต่างกัน

ทั้ง 2 เมนูนี้เป็นกาแฟดำทั้งคู่ ไม่มีส่วนผสมของนม แต่มีความต่างกันที่วิธีการชง ซึ่งบทความนี้เราจะมาดูกันว่าความแตกต่างนั้นมีอะไรบ้าง

☕️ เมนูอเมริกาโน่ (Americano) 

.

.

เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดจากทหารชาวอเมริกัน ได้รับความนิยมสูง และยังเป็นเครื่องดื่มร้อน-เย็นมาตรฐานของร้านกาแฟทั่วไป

อเมริกาโน่ใช้การสกัดด้วยวิธี Brewing Ratio for Espresso โดยมีอัตราส่วนระหว่างปริมาณผงกาแฟต่อปริมาณน้ำกาแฟที่ถูกสกัดออกมาได้ โดยนิยมใช้สัดส่วน Ratio Espresso อยู่ที่ 1:2 (ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละร้านที่เลือกชงและสูตรของร้าน) และสกัดช็อตเอสเพรสโซ่ลงไปในแก้วเป็นขั้นตอนแรก หลังจากนั้นจะเติมน้ำร้อนลงไปทีหลัง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในแก้วให้มากขึ้น จนได้ปริมาณ 3 ใน 4 ของแก้ว น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่าเอสเพรสโซ่จะช่วยลดเปรี้ยวของกาแฟได้ ปรับสมดุลความเข้มข้น ทำให้ดื่มง่าย ไม่เข้มจนเกินไป สามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น

☕️ เมนูลองแบล็ค (Long Black)

.

.

เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ลองแบล็คใช้การสกัดด้วยวิธี Brewing Ratio for Espresso สัดส่วน 1:2 ลำดับแรกคือการเติมน้ำร้อนลงไปในแก้วประมาณ 3-4 ออนซ์ และสกัดช็อตให้เอสเพรสโซ่ไหลลงบนน้ำร้อนในการเสิร์ฟ ครีม่าที่ได้จากเอสเพรสโซ่ ซึ่งมีสถานะเป็นแก๊สและน้ำหนักเบากว่าน้ำ จะลอยอยู่บนผิวน้ำ ทำให้การเสิร์ฟลองแบล็คคอฟฟี่นั้นสวยงาม รวมถึงเอสเพรสโซ่จะไม่ถูกความร้อนของน้ำร้อนปะทะกับผิวหน้าครีม่าโดยตรง รสชาติลองแบล็คจะมีรสฝาดน้อย ให้รสกาแฟที่เข้มข้นกว่าอเมริกาโน่ สามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น

ความแตกต่างของ Americano และ Longblack

– อเมริกาโน่จะสกัดช็อตเอสเพรสโซ่ก่อนแล้วค่อยเติมน้ำร้อนลงไปทีหลัง ส่วนลองแบล็คจะเติมน้ำร้อนลงไปในแก้วก่อนแล้วค่อยสกัดช็อตเอสเพรสโซ่ตามลงไปทีหลัง

– อเมริกาโน่มีปริมาณครีม่า (Crema) ที่น้อยกว่าลองแบล็ค เนื่องจากวิธีการเติมน้ำร้อนลงไปในภายหลัง ซึ่งอุณหภูมิของน้ำร้อนที่สูงกว่าเอสเพรสโซ่มีผลทำให้กลิ่นกาแฟระเหยไป

– ลองแบล็คมีอโรม่าที่ชัดเจนกว่า มีกลิ่นหอมจากครีม่า ให้รสชาติที่กลมกล่อมและเข้มข้นกว่าอเมริกาโน่

จะเห็นได้ว่าความแตกต่างหลักของเมนูกาแฟดำทั้ง 2 เมนูนั้น แค่เปลี่ยนวิธีการชงในสูตรที่ตอบโจทย์ความชอบของผู้ดื่มกาแฟ ก็สามารถสร้างรสสัมผัสใหม่ และความหอมจากอโรม่าที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงอยู่ในพื้นฐานของเอสเพรสโซ่ที่ดี ความต่างเพียงเล็กน้อยนี้ก็สามารถสร้างเสน่ห์ให้กับเครื่องดื่มได้แล้ว!